เนื้อเพลง เสียงในหัว (Paranoia) BOMB AT TRACK
ได้ยินเสียงอยู่ข้างใน มันกระซิบอยู่ข้างใน
พูดซ้ำ ซ้ำ อยู่ข้างใน พูดย้ำ ย้ำ อยู่ข้างใน
มันสั่งมาว่าให้หยุด สั่งมาว่าให้หยุด
ถูกจิตใต้สำนึกครอบงำโดยลากและฉุดกระชากไปถึงจุดถลำลงลึก
มีแต่ภาพวาดอยู่ในหัวสมอง เอาผู้คนไปฆ่าอย่างสยดสยอง
เริ่มจากหนึ่งค่อย ค่อย กลายเป็นสอง
ไม่มีความรู้สึกไม่มีการตอบสนอง
พูดไม่เป็นคำเพราะในหัวกูแม่งโคตรเยอะ
บอกให้มึงจำว่าในหัวกูแม่งโคตรเยอะ
ควบคุมไม่ได้เพราะในหัวกูแม่งโคตรเยอะ
มึงไม่เข้าใจหรอกเพราะในหัวมึงแม่งโคตรเลอะ
เหมือนดั่งโดนพรากตัวตนทำคนบ้าคลั่ง
ดูสภาพช่างมัวมนกลัวคนข้าง ข้าง
ดูสภาพบ้างตัวตนรนจนบ้าคลั่ง
มึงควรห้ามบ้างก่อนที่ตัวตนกูจะข้ามขั้น
เหมือนจะซาบซ่านอยากให้ทราบว่าถอยไป
ก่อนที่กูจะวาดกำปั้นเข้าไปฟาดหน้าดูไม่เข้าท่า
นี่กูแร๊พรัวจนกูจะบ้าบ้าง
ได้ยินเสียงติ๊กติ๊กติ๊กอยู่ในหัว
นั่งนึกคิดคิดคิดอยู่ในสวน
กับความมืดมิดมิดมิดไฟสลัว
กลัวว่าใจมันจะพลิกพลิกพลิกผันผวน
ได้ยินเสียงติ๊กติ๊กติ๊กอยู่ในหัว
นั่งนึกคิดคิดคิดอยู่ในสวน
กับความมืดมิดมิดมิดไฟสลัว
กลัวว่าใจมันจะพลิกพลิกพลิกผันผวน
เหมือนเป็นโรคจิตวัน วัน เอาแต่ panic อย่าไปแคร์ดิ
หัวสมองมันงอแงหนิ ก็ดูแลดิ
แปปเดียวก็ลื่นไหล like a magic
เอามีดมาทแยงกรีด เอาให้แรงอีก
ฉีกเป็นแผลเป็น แล้วก็แทงอีก
เอายาแดงมาปิดแผลให้สมานแล้วก็ฉีก
อยากจะปลีกวิเวก อยากไปจิตเวชเวชเวช
กูเบื่อที่จะต้องเก็บที่จะต้องกดไม่ออกอาการให้มึงสลด
มึงเลยทำตัวโคตรน่ารำคาญไม่สิ้นไม่จบ
กูจะรังควานให้ถึงที่สุดกูเก็บมานานเพราะมึงไม่หยุด
เรื่องเก่านมนานกูก็จะขุดมาตบกบาลมึงให้สะดุด
มึงจะทำกูบ้าแต่อย่างว่าแหละถ้าเกิดมึงกล้ามึงก็มาดิ
สติกูพล่านอย่างกับว่าจิตใจกูมันต้านความดัดจริต
สังคมในบ้านเราจัดว่าผิดสร้างคนซาดิสม์
สร้างแล้วสร้างอีกช่างคล้ายว่าบีบสร้างกูให้จิต
มันเหมือนกับว่าโลก ถ้ามึงไม่มีโชค
มึงก็ควรชะโงก มองเข้าไปในโลก
ที่มันเป็นจริง แก่งแย่งชิงดี เท่าเทียมไม่มี
เกิดมาทั้งที สังคมไม่ดี ชีวิตไม่ฟรี สักนิดไม่มี
สติกูหลุดไปตอนไหนกูก็ยังคงนึกไม่ออก
มันเหมือนระเบิดเวลาที่ไม่จำเป็นต้องหาคำตอบ
มันไม่มีแม้สัญญาณที่จะบอก
โลกใบนี้ไม่มีความยุติธรรมให้มึงหรอก
ได้ยินเสียงติ๊กติ๊กติ๊กอยู่ในหัว
นั่งนึกคิดคิดคิดอยู่ในสวน
กับความมืดมิดมิดมิดไฟสลัว
กลัวว่าใจมันจะพลิกพลิกพลิกผันผวน
ได้ยินเสียงติ๊กติ๊กติ๊กอยู่ในหัว
นั่งนึกคิดคิดคิดอยู่ในสวน
กับความมืดมิดมิดมิดไฟสลัว
กลัวว่าใจมันจะพลิกพลิกพลิกผันผวน
ได้ยินเสียงติ๊กติ๊กติ๊กอยู่ในหัว
นั่งนึกคิดคิดคิดอยู่ในสวน
กับความมืดมิดมิดมิดไฟสลัว
กลัวว่าใจมันจะพลิกพลิกพลิกผันผวน
ได้ยินเสียงติ๊กติ๊กติ๊กอยู่ในหัว
นั่งนึกคิดคิดคิดอยู่ในสวน
กับความมืดมิดมิดมิดไฟสลัว
กลัวว่าใจมันจะพลิกพลิกพลิกผันผวน
ได้ยินเสียงติ๊กติ๊กติ๊กอยู่ในหัว
นั่งนึกคิดคิดคิดอยู่ในสวน
กับความมืดมิดมิดมิดไฟสลัว
กลัวว่าใจมันจะพลิกพลิกพลิกผันผวน
ได้ยินเสียงติ๊กติ๊กติ๊กอยู่ในหัว
นั่งนึกคิดคิดคิดอยู่ในสวน
กับความมืดมิดมิดมิดไฟสลัว
กลัวว่าใจมันจะพลิกพลิกพลิกผันผวน
ได้ยินเสียงติ๊กติ๊กติ๊กอยู่ในหัว
นั่งนึกคิดคิดคิดอยู่ในสวน
กับความมืดมิดมิดมิดไฟสลัว
กลัวว่าใจมันจะพลิกพลิกพลิกผันผวน
ได้ยินเสียงติ๊กติ๊กติ๊กอยู่ในหัว
นั่งนึกคิดคิดคิดอยู่ในสวน
กับความมืดมิดมิดมิดไฟสลัว
กลัวว่าใจมันจะพลิกพลิกพลิกผันผวน
ได้ยินเสียงติ๊กติ๊กติ๊กอยู่ในหัว
นั่งนึกคิดคิดคิดอยู่ในสวน
กับความมืดมิดมิดมิดไฟสลัว
กลัวว่าใจมันจะพลิกพลิกพลิกผันผวน
ได้ยินเสียงติ๊กติ๊กติ๊กอยู่ในหัว
นั่งนึกคิดคิดคิดอยู่ในสวน