*** เพราะกูหน่ะแร็พ กันมานาน แร็ปอยู่ในกระบาล
แร็พจนโดนวิจารณ์ แร็พตั้งแต่โดนแม่รำคาญ
เพราะกูหน่ะแร็พ จนชำนาญ แร็พกันจนเป็นงาน
แร็พยามรัตติกาล จนมีเงินเก็บในธนาคาร
เพราะกูหน่ะแร็พ ด้วยสุขใจ แร็พใส่ไมค์
ใครจะด่าหรือว่ายังไง จะด่าจะแช่งช่างแม่งปะไร
เพราะกูจะแร็พ จนมลาย แร็พกระจุยกระจาย
แร็พจนมีรายได้ให้พ่อกับแม่ได้อยู่สบาย
-----
เด็กบ้านนอกบ้านนาคนหนึ่ง ผิวหยาบกร้านกลิ่นตัวเหม็นหึ่ง
จบ ม.3 ความรู้หางอึ่ง ประทังชีพด้วยข้าวต้มบะหมี่กึ่ง
ไม่มีแม้แชมพูจะสระผม ไม่ต้องถามเรื่องเงินจะสะสม
เอาข้าวเหนียวมาแดกกับขนม นี่มันคือชีวิตเหมือนเป็นยารสขม
ตอนกูทำแม่งเหนื่อยจะตาย มึงมาเห็นตอนกูสบาย
วาสนากูไม่มีมากมาย สองมือสองเท้าตะเกียกตะกาย
เหนื่อยแค่ไหนกูไม่โวยวาย ไม่เคยโทดตีโพยตีพาย
ใช้แรงงานเป็นวัวเป็นควาย แต่ก็ผ่านมาได้กูไม่ยักกะตาย
ขอบคุณมึงที่เสียสละ เงินเดือนก็ไม่ได้แต่ยังอุตสาหะ
ตามเกลียดกูอยู่ในทุกขณะ รู้แม่งทุกเรื่องเป็นตุเป็นตะ
ขอบคุณมึงที่เสียเวลา คิดคำดูถูกกันต่างๆ นาๆ
ขอบคุณที่ด้อยค่าด้วยราคา จนกูนอนสบายแดกอยู่บนโซฟา
มีชีวิตแล้วมันต้องสู้ ของจริงมั้ยตัวกูไม่รู้
หาเงินไปใส่ไว้ในตู้ เพราะเคยแดกแต่น้ำเต้าหู้
บ้างคนบอกว่ากูของปลอม นั้นคือสิ่งที่กูได้ยิน
จะเรียกไรตัวกูก็ยอม แต่ขอทางบ้านกูต้องมีกิน
ติดจานดาวเทียม ตัวกูไหม้เกียม แต่กูก็เจียม กันอยู่ถมไป
ตอนไม่มีตัง แกงคอยประทัง แล้วเก็บตังเอาไปซื้อไมค์
ไม่มีคนคบ หรือไม่เคารพ ใครไม่อยากคบ ก็ไม่สนใจ
แม่กูต้องรอด พ่อกูต้องรอด คิดแค่นี้กูไม่คิดไร
แข่งกับตัวเอง ในวันเมื่อวานก็พอ
อยากจะ ทำเพลง แล้วขึ้นไปร้องบน on the floor
มาไกล เกินฝัน แม้ใครจะด่าว่า ปยอ.
กูยกนิ้วให้ กูยกนิ้วกลางให้แทนกระดอ
มึงล้อกูให้ขายขี้หน้า หางตามึงมองกูเป็นผีบ้า
มึงเป็นเหมือนเชื้ออะมีบา กูเลยฟาดหน้ามึงด้วยขวดซีม่า
กัดมึงกรอบเหมือนปาปริก้า เพราะว่ากูวิ่งเร็วยิ่งกว่าเสือชีตาห์
กูแข็งแรงเพราะกูกินดีน่า แต่มึงเสือกปากดีแต่ยังเป็นขี้ข้า
วิ่งแข่งกันวัดที่เส้นชัย มีจุดเริ่มต้นและก็ค่อยวิ่งไป
อย่าตัดสินคนอื่นล่ำไป ควรตัดสินตัวเองและก็วิ่งให้ไกล
กูยอมตายกับสิ่งที่ทำ แต่ไม่ให้คำของมึงชี้นำ
กูรู้ดีไหนขาวไหนดำ มึงก็ได้แค่พูดแต่กูลงมือทำ
(ซ้ำ ***)