ประตูโรงงานปิดแล้วตัวเรา ปะกะตูปิดอีกแล้วเหรอ(ปิด) ก็ถึงคราวหมองหม่นสิ
หนทางมืดมนจะมีกี่คน (นั่นนะซิ) มาเข้าใจเห็นใจ
อยู่เพื่องาน ทำเพื่อเงิน (ได้กี่ตังค์กันเชียวฮะ) เดือนละไม่เท่าไหร่
ไม่พอยาไส้เลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย ก็มีเมียหลายคนนี่ (มีคนเดียวแต่บ่น)
ได้เป็นวันๆ (บ่นจริงๆแล้วแก่อีกต่างหาก)
เป็นกรรมกรเร่ขายแรงงาน นั่นมันแสนลำบาก
ชีวิตทุกข์ยากค่าหยูกค่ายา ค่าโน่นค่านี่ ค่าน้ำค่าไฟ
บ้านต้องเช่าละค่าข้าวค่าเหล้า (สำคัญนะค่าเหล้า ขนาดไม่กินเบียนะ)
แล้วจะเหลืออะไรล่ะ สิ้นเดือนสุดท้ายจะให้ทำยังไร (มันก็นั่นนะซินะ) เพราะเขาเลิกจ้างแล้ว
* คิดขอทาน ละอายใจอยู่ คิดขอทาน ละอายใจอยู่
สะ สะ สองมือยังดี สะ สะ สองขายังอยู่ สะ สะ สองมือยังดี ก็สองขายังเดิน นั่นเด่ะแต่ใจไม่กล้า
อยากตัดใจหวนกลับคืนสู่บ้านนา ก็หมดปัญญาเขาแย่งที่นาไปแล้ว
( * )
ตึกรามใหญ่โตถนนมากมาย อีกรถราก็ขวักไขว่
ย่ำเดินเรื่อยไปสายตาจับจ้อง ที่ป้ายรับคนงาน
ค่ำลงแล้วร้านรวงก็ปิด (ปิดทำไมห้ะ นั่นนะดิ โธ่กลัวโดนปล้นมั๊ง)
แหล่งราตรีเบ่งบานนะซิ สถานบริการสาวน้อยทำงาน (ก็ต้องจ๋าจ้ะ จ๋าจ้ะ)
กันตัวเป็นเกลียว (แล้วมีเงินเหรอจะไปจ๋าจ๊ะกับเค้าเนี่ย)
เป็นชายอย่างฉันมันนึกน้อยใจ(เนี่ยะน้อยใจ) ขายใครไม่ออก
เหมือนทุยบ้านนอกจะมีก็แรง ที่เอาไว้ไถนา
หมดเรี่ยวแรงยังเข้าโรงฆ่าสัตว์ (เจ็บใจจริงๆเลย) มันยังได้ราคา
เนื้อหนังมังสาของคนกับควาย(ก็นั่นนะซิ) แล้วใครจะเหนียวกว่ากัน